The Basics

Private Assets และการลงทุนในคราวด์ฟันดิงเพื่อหนีความผันผวนตลาดหุ้น

by
PeerPower Team
October 13, 2023

Private Assets และการลงทุนในคราวด์ฟันดิงเพื่อหนีความผันผวนตลาดหุ้น

ขอต้อนรับสู่ Investment 101: รู้จักคราวด์ฟันดิงเบื้องต้น คอลลัมน์พิเศษที่เราจะมาพูดคุยและเจาะประเด็นพื้นฐานของสินทรัพย์ที่เรียกว่า “คราวด์ฟันดิง” ให้นักลงทุนได้อ่านศึกษา 

ครั้งที่แล้วเราได้อธิบายถึง ข้อดีของหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ไปว่ามีอะไรบ้าง ซึ่งคุณสมบัติข้อหนึ่งที่จัดว่าเป็นจุดแข็งของหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเลยคือ “ความไม่ผันผวนตามตลาด” สิ่งนี้เองที่ทำให้นักลงทุนหลายรายทำกำไรได้เป็นกอบเป็นกำจากการลงทุนที่ผ่านมา 

ดังนั้นบล็อกนี้เราเลยจะมาเล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า อะไรคือเหตุผลที่ทำให้หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงไม่ผันผวนตามตลาด และอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับการลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ (Private Assets) อีกหนึ่งทางเลือกการลงทุนที่มาแรงในปีที่ผ่านมา

ความผันผวน สิ่งที่ต้องเจอเมื่อลงทุนในตลาดหลักทรัพย์

พอนึกถึงการลงทุนคนส่วนใหญ่มักจะนึกถึงหุ้นหรือกองทุนที่ซื้อขายแลกเปลี่ยนกันในตลาด พวกนี้เรียกว่า “Public Asset” หรือสินทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ 

ผลตอบแทนของสินทรัพย์พวกนี้จะปรับตัวตามกลไกตลาดและมีราคา mark to market (อารมณ์ประมาณราคากลางตลาด) ดังนั้นเมื่อเจอเหตุการณ์ เช่น การขึ้นอัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ การเมือง หรือแม้กระทั่งการเทขายเพื่อเก็งกำไร ผลตอบแทนเลยจะปรับตัวขึ้น-ลง ผันผวนตามปัจจัยที่เปลี่ยนไป 

ประเด็นคือปัจจัยพวกนี้เป็นสิ่งที่ยากจะควบคุม ดังนั้นเพื่อหนีจากตลาดหุ้นที่ผันผวนนักลงทุนบางส่วนเลยมองหาสินทรัพย์ทางเลือกอื่น ๆ ที่ไม่ผันผวนตามตลาดมาเสริมพอร์ตของตัวเอง 

ลงทุนอะไรดีเมื่อเศรษฐกิจผันผวน

3 สิ่งหลัก ๆ ที่คนมักหันไปลงทุนเมื่อเศรษฐกินผันผวนคือ 

  1. ทอง
  2. อสังหาริมทรัพย์
  3. Private Assets หรือ สินทรัพย์นอกตลาดหลักทรัพย์ 

สองอย่างแรกหลายคนคงคุ้นชิน แต่ถึงแม้ทองกับอสังหาจะเป็นที่ต้องการของตลาด จริง ๆ แล้ว มันยังมีข้อเสียอยู่ คือ สองอย่างนี้เป็นเงินเย็นมาก ๆ และต้องใช้เวลาลงทุนนานถึงจะทำกำไร ซึ่งถ้าพิจารณาจุดนี้แล้วยังมีตัวเลือกอื่นอีกที่สามารถทดแทนได้

สินทรัพย์นอกตลาด private assets มีอะไรบ้าง ลงทุนอะไรดีดอกเบี้ยสูง ลงทุนอะไรไม่ผันผวน

ทองกับอสังหาริมทรัพย์เหมาะเป็นสินทรัพย์สำหรับถือ เพราะสองอย่างนี้จะทำกำไรได้ก็ต่อเมื่อมีส่วนต่างจากราคาซื้อ-ขายเท่านั้น ไม่จ่ายดอกเบี้ย และไม่มีปันผล และโดยธรรมชาติเมื่อทองและอสังหาริมทรัพย์เป็นของที่ “ราคาเสถียร” การทำกำไรระยะสั้นจึงเป็นเรื่องยาก ช่วงลงทุนเวลาการลงทุนจึงนานตาม

ดังนั้นเพื่อกลบข้อด้อยและเสริมพอร์ตทำกำไร ทางเลือกที่นักลงทุนให้ความสนใจจึงเป็น “สินทรัพย์ที่ไม่ผันผวน แต่ระยะเวลาลงทุนสั้น และจ่ายดอกเบี้ยระหว่างการลงทุน” ซึ่งคอนเซ็ปท์นี้เลยไปตรงกับ private asstes หรือ คราวด์ฟันดิง พอดิบพอดี

Private Assets หรือ การลงทุนนอกตลาดหลักทรัพย์ คืออะไร ?

Private Assets คือ สินทรัพย์นอกตลาด ออกโดยบริษัทที่ไม่ได้ลิสต์หรือจดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์ ผลประกอบการของบริษัทเหล่านี้จะขึ้นอยู่กับ performance ของบริษัทล้วน ๆ ไม่ผูกกับปัจจัยตลาด ไม่มีราคา mark to market ดังนั้นต่อให้ตลาดหุ้นจะเหวี่ยงเท่าไหร่สินทรัพย์พวกนี้ก็จะไม่เหวี่ยงตาม โดยทั่วไปจะแบ่งเป็น 3 ประเภทใหญ่ คือ 

  1. Private Equity หุ้นนอกตลาด (อันนี้มีหุ้นคราวด์ฟันดิงรวมอยู่)
  2. Private Real Assets อสังหาริมทรัพย์นอกตลาด 
  3. Private Debt หรือ Private Credit การปล่อยกู้โดยตรงกับบริษัทเอกชน (หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงอยู่หมวดนี้)

ตัวอย่างของ private assets ที่หลายคนอาจจะเคยได้ยินคือ กองทุน Yale’s Endowment ที่ลงทุนในหุ้นนอกตลาดและกองทุน hedge fund ในสัดส่วนที่มากถึง 40%  มีรายงานว่าปีที่แล้วแม้เศรษฐกิจของอเมริกาจะตกต่ำ (อย่างที่ Fed ประกาศขึ้นดอกเบี้ยหลายครั้งติดกันในรอบปีที่ผ่านมา) แต่ผลตอบแทนของกองทุนนี้ก็ยังเป็นบวกอยู่ที่ราว 0.8% ฟังดูแล้วดูน้อยมาก แต่ความถ้าเทียบเป็นเงินก็จะสูงถึง 266 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 9.6 พันล้านบาทไทย ชนะเงินเฟ้อปีนั้นแบบขาดลอย 

ก่อนหน้านี้สินทรัพย์เหล่านี้จะมีข้อจำกัดคือ ส่วนใหญ่มักเสนอขายให้กับบุคคลในวงจำกัดเพราะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางในการลงทุน

กรณีอย่าง private equity หรือ private real assets ที่เป็นอสังหาริมทรัพย์ นักลงทุนที่สามารถเป็นเจ้าของได้อาจเป็นคนเฉพาะกลุ่ม เช่น นักลงทุนสถาบันหรือลงทุนรายใหญ่พิเศษ Ultra High Net Worth (อ่านประเภทนักลงทุนได้ที่นี่) แต่ในปัจจุบันด้วยเทคโนโลยีการลงทุนฟินเทคที่ก้าวหน้าขึ้น การลงทุนใน private assets จึงสามารถเข้าถึงได้ง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อน และไม่ได้จำกัดแค่คนเฉพาะกลุ่มอีกต่อไป 

คราวด์ฟันดิง การลงทุนใน Private Assets ในรูปแบบของหุ้นและหุ้นกู้นอกตลาดหลักทรัพย์

คราวด์ฟันดิง คือการลงทุนให้บริษัทกู้เงินกับนักลงทุนโดยตรง เป็นการกู้ยืมนอกตลาดแต่มีแพลตฟอร์มตัวกลางเป็นผู้บริหารจัดการและดูแลผลประโยชน์ มีลักษณะเหมือน private debt หรือ private equity ตรงที่นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยจากการลงทุนในเงินต้น หรือเงินปันผลตามสัดส่วนที่ลงทุนในครั้งแรก

ข้อดีของการลงทุนประเภทนี้ คือมีความผันผวนต่ำจึงเหมาะเป็นสินทรัพย์กระจายความเสี่ยง

กรณีของ หุ้นคราวด์ฟันดิง (Equity Crowdfunding) นักลงทุนจะได้เป็นคนกลุ่มแรก ๆ ที่ได้ลงทุนในบริษัทที่มีโอกาสเติบโตสูง และจะได้ผลตอบแทนเป็น "เงินปันผล" หรือ "กำไร"

กรณีของ หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง (Debt Crowdfunding) ลักษณะการลงทุนคือการเป็น เจ้าหนี้ รูปแบบการลงทุนจึงซับซ้อนน้อยกว่าการลงทุนใน private assets ประเภทอื่น ๆ

นอกจากนั้นหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงยังจ่ายผลตอบแทนเป็นดอกเบี้ยรายเดือน จึงเป็นการสร้างกระแสเงินสดให้นักลงทุนได้อย่างดี (อ่านความแตกต่างของ อ่านระหว่าง "หุ้นคราวด์ฟันดิง" และ "หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง" ได้จากบล็อกนี้)

ในแง่ของต้นทุนในการลงทุนถ้าเทียบกับ private assets ประเภทอื่นแล้ว แล้วก็จัดว่าราคาต่ำกว่า กรณีของ PeerPower การลงทุนในคราวด์ฟันดิงจะเริ่มต้นที่ 50,000 บาท นักลงทุนรายย่อยก็สามารถเปิดบัญชีลงทุนได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเริ่มต้น 

หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงคืออะไร รู้จักหุ้กู้คราวด์ฟันดิง PeerPower

คราวด์ฟันดิงและคำถามที่นักลงทุนยังสงสัยเกี่ยวกับความเสี่ยง 

แม้จะไม่ผันผวนตามตลาดแต่สินทรัพย์นี้ก็ยังมีความเสี่ยง สิ่งที่นักลงทุนส่วนมากยังไม่เข้าใจคือ 

  1. ระยะเวลาการลงทุน คราวด์ฟันดิงมีระยะลงทุนอยู่ที่ราว 3 เดือน ถึง 2 ปี ช่วงถือลงทุนถือว่าสั้นกว่าสินทรัพย์อื่น ๆ
  1. สภาพคล่อง เพราะเป็น private asstes ปัจจุบันทั้ง "หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง" และ "หุ้นคราวด์ฟันดิง" จึงไม่มีตลาดรองการซื้อขายจะต้องผ่านแพลตฟอร์มผู้ให้บริการเท่านั้น รายละเอียดขั้นตอนอ่านได้ที่นี่
  1. ข้อมูลบริษัทและการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ (Credit Scoring) ศักยภาพของบริษัทที่เสนอขายสินทรัพย์คราวด์ฟันดิงจะถูกประเมินโดยแพลตฟอร์มผู้ให้บริการ ไม่ได้ผ่านบริษัทจัดเรทติ้ง แต่ละแพลตฟอร์มจะมีเกณฑ์การประเมินต่างกัน กรณีของ PeerPower ผู้เชี่ยวชาญด้านเครดิตจะตรวจสอบงบการเงินและประวัติของบริษัททุกครั้งก่อนนำหุ้นกู้เสนอขาย โดยข้อมูลที่ใช้จะสืบค้นจาก data base ของข้อมูลเครดิตแห่งชาติ ที่ PeerPower เป็นสมาชิก ซึ่งทั้งหมดจะถูกสรุปเป็นหนังสือชี้ชวนให้นักลงทุนพิจารณาก่อนลงทุนทุกครั้ง 
  1. ความเสี่ยงจากการผิดชำระหนี้ กรณีนี้สามารถเกิดขึ้นได้ในการลงทุนลักษณะการเป็นเจ้าหนี้ ซึ่งกรณีนี้อาจนำไปสู่การขอปรับโครงสร้างหนี้หรือขอจ่ายช้า นักลงทุนสามารถศึกษาเพิ่มเติมกรณีที่หุ้นกู้จ่ายช้าได้จากบล็อกนี้

ถ้าพิจารณาทั้งหมดแล้วจะเห็นว่าการลงทุนในสินทรัพย์นอกตลาดไม่ได้ยากหรือซับซ้อนอย่างที่คิด และยิ่งพิจารณาว่ามีความผันผวนต่ำกว่าตลาดหุ้นด้วยแล้วก็อาจเป็นตัวเลือกหนึ่งที่นักลงทุนสามารถลงทุนได้

บล็อกหน้าเราจะเอาเรื่องอะไรมาเล่าให้ฟังอีก โปรดรอติดตาม 

หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง  คืออะไร crowdfunding คืออะไร PeerPower

Author
PeerPower Team

สู่เป้าหมายทางการเงินที่ไกลขึ้น

ลงทุนและระดมทุนเพื่อธุรกิจผ่านคราวด์ฟันดิงกับ PeerPower
สมัคร