ผลตอบแทนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงสำหรับนักลงทุน สามารถเลือกได้ 2 แบบ คือ แบบรายเดือน (Monthly) และแบบรายไตรมาส (Quarterly)
- ไม่ว่าจะเป็นการเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนแบบรายเดือน หรือ รายไตรมาส นักลงทุนก็ได้รับผลตอบแทนเป็นกระแสเงินสด คือ เงินต้นพร้อมดอกเบี้ยเหมือนกัน
- หุ้นกู้คราวด์ฟันดิงของเพียร์ พาวเวอร์ ให้ผลตอบแทน 2 แบบนี้ ตามประเภทการเลือกจ่ายหนี้ของเจ้าของธุรกิจผู้ออกหุ้นกู้
- ผลตอบแทนแบบรายไตรมาส จะสูงกว่าแบบรายเดือนเล็กน้อยในอัตราความเสี่ยงที่เท่ากัน เพื่อชดเชยระยะเวลาในการได้รับกระแสเงินสดที่นานขึ้นของนักลงทุน
- ถ้าเป็นนักลงทุนที่ต้องการสภาพคล่องในการลงทุน การเลือกลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงที่ให้ผลตอบแทนเป็นรายเดือน จะตรงกับเป้าหมายการลงทุนมากกว่า
- ถ้าเป็นนักลงทุนที่โฟกัสกับผลตอบแทนที่มากกว่า การเลือกลงทุนในหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสก็จะได้รับผลตอบแทนมากกว่าเสมอ
ผลตอบแทน Crowdfunding Bonds แบบไหน เหมาะกับการลงทุนของคุณ
สำหรับนักลงทุนของเพียร์ พาวเวอร์ การเลือกลงทุนใน หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง (Crowdfunding Bonds) จะพบว่า บนแพลตฟอร์มจะมี ผลตอบแทนของหุ้นกู้ให้เลือก 2 แบบ คือ แบบรายเดือน (Monthly) กับแบบรายไตรมาส (Quarterly) ซึ่งนักลงทุนหลายท่าน อาจยังไม่แน่ใจว่า ควรเลือกผลตอบแทนหุ้นกู้แบบไหน ที่จะตรงกับการเป้าหมายในการลงทุนของตัวเองมากที่สุด เพียร์ พาวเวอร์ จึงขอพาไปทำความเข้าใจกับการจ่ายผลตอบแทนที่ต่างกัน 2 แบบนี้ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วย ที่ทำให้การตัดสินใจของคุณง่ายขึ้น
ผลตอบแทนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง (Crowdfunding Bonds) เป็นอย่างไร
หุ้นกู้คราวด์ฟันดิง คือ การระดมทุนเพื่อธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม ผ่านแพลตฟอร์มที่เป็นผู้ให้บริการ โดยจะมีผลตอบแทนให้นักลงทุนในรูปแบบของดอกเบี้ย ที่จะจ่ายคืนพร้อมเงินต้นในทุกงวด โดยเงื่อนไขของการระดมทุนในแต่ละหุ้นกู้จะแตกต่างกัน ในส่วนของ วงเงิน อัตราดอกเบี้ย และระยะเวลาในการชำระคืน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการประเมินธุรกิจ ผ่านระบบของเพียร์ พาวเวอร์ ซึ่งพิจารณาจากปัจจัยต่าง ๆ ของธุรกิจนั้น ในการกำหนดผลตอบแทนที่เหมาะสม ดังนั้น ผลตอบแทนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงจึงมีข้อควรสังเกตสำหรับนักลงทุนในการเลือกรับผลตอบแทนดังนี้
อัตราผลตอบแทนคำนวณจากความเสี่ยง
ระบบเครดิตสกอริ่ง (Credit Scoring) ของเพียร์ พาวเวอร์ จะประเมินเงื่อนไขการระดมทุนรวมซึ่งสัมพันธ์ กับผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับจากศักยภาพของธุรกิจที่เข้ามาขอระดมทุนนั้น แล้วประมวลผลออกมาเป็นระดับความเสี่ยงตั้งแต่ A คือ มีความเสี่ยงน้อยที่สุด ไปถึง HR คือ มีความเสี่ยงมากที่สุด โดยยิ่งความเสี่ยงน้อย อัตราดอกเบี้ยที่ผู้ออกหุ้นกู้ต้องจ่าย และผลตอบแทนที่นักลงทุนจะได้รับก็จะน้อยตามไปด้วย แต่ในขณะเดียวกัน ถ้าผลการประเมินพบว่าหุ้นกู้นั้นมีระดับความเสี่ยงที่สูงขึ้น ผลตอบแทนจะมากขึ้นตามไปด้วย ปัจจุบัน เพียร์ พาวเวอร์ แบ่งระดับความเสี่ยงออกเป็น 5 ระดับ และ มีอัตราดอกเบี้ยและผลตอบแทน ดังนี้
A:: 8-11%
B:: 12-13%
C:: 14-16%
D:: 17-20%
HR :: 21-22%
(อัตราดอกเบี้ยดังกล่าวเป็นเพียงตัวอย่างในการคำนวณเท่านั้น ผลตอบแทนที่ได้รับจริงจะขึ้นอยู่กับพอร์ตการลงทุนของคุณ)

ระยะเวลาในการจ่ายผลตอบแทน
ในส่วนของระยะเวลาการจ่ายผลตอบแทนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง จะพบว่า มีระยะเวลาครบกำหนดไถ่ถอน (Time to Maturity) หมายถึง ช่วงเวลาที่นักลงทุนจะได้รับผลตอบแทนจากหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงนั้น จนกว่าจะได้รับการชำระเงินต้นคืนพร้อมดอกเบี้ยทั้งหมด ซึ่งหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนระยะสั้น คือ มีระยะเวลาในการครบกำหนดไถ่ถอนเพียง 6 – 24 เดือน
และใน 6 – 24 เดือนนี้ มีการจ่ายผลตอบแทนเป็นช่วงเวลาที่สม่ำเสมอ นักลงทุนสามารถเลือกได้ในระบบว่า จะลงทุนในหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนทุกเดือน(Monthly) หรือ รับผลตอบแทนทุก 3 เดือน (Quarterly) โดยผลตอบแทนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงที่จ่ายเป็น แบบรายไตรมาส (Quarterly) จะให้ผลตอบแทนสูงกว่าแบบที่จ่ายเป็น แบบรายเดือน (Monthly) เล็กน้อย เทียบกับในหุ้นกู้ที่มีระดับความเสี่ยงเท่ากัน และช่วงผลตอบแทนจะกว้างมากขึ้น เมื่อเป็นผลตอบแทนจากหุ้นกู้ที่มีระดับความเสี่ยงสูงขึ้น

ผลตอบแทน Crowdfunding Bonds แบบรายเดือน (Monthly) กับ รายไตรมาส (Quarterly) มีผลอย่างไรต่อนักลงทุน
เพื่อให้เห็นภาพชัดเจนขึ้นสำหรับนักลงทุนที่กำลังตัดสินใจว่าจะลงทุนเพื่อผลตอบแทนหุ้นกู้ แบบรายเดือน หรือ รายไตรมาสดี เพียร์ พาวเวอร์ เปรียบเทียบผลตอบแทนทั้ง 2 แบบ สำหรับนักลงทุนให้เห็น ดังต่อไปนี้
ข้อดีของการเลือก ผลตอบแทนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง แบบรายเดือน (Monthly)
1. ทำให้มีโอกาสทางการลงทุนมากกว่า
เพราะเป็นหุ้นกู้ที่มีช่วงเวลาถือแค่สั้น ๆ ทำให้นักลงทุนมีเงินสำหรับการลงทุนในสินทรัพย์เพื่อการลงทุนอื่น ๆ ได้เร็วขึ้น หมายถึง มีค่า Internal Rate of Return (IRR) ที่ดีกว่าการรับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาส
2. ให้กระแสเงินสดที่ดีกว่า
เพราะได้รับเงินคืนทุกเดือน พร้อมกับดอกเบี้ยทุกเดือน จะเป็นกระแสเงินสดที่นักลงทุนสามารถนำมาใช้หมุนเวียนได้ดีกว่ารอ 3 เดือน เพื่อให้ได้ผลตอบแทนครั้งหนึ่ง
ข้อดีของการเลือก ผลตอบแทนหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง แบบรายไตรมาส (Quarterly)
1. ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยที่มากกว่า
ถ้าคุณเป็นนักลงทุนที่มีสภาพคล่องทางการลงทุนสูงอยู่แล้ว และอยากลงทุนให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด การเลือกผลตอบแทนหุ้นกู้แบบรายไตรมาส (Quarterly) ก็ถือว่าน่าสนใจ เพราะมีช่วงผลตอบแทนที่สูงกว่าในหุ้นกู้ระดับความเสี่ยงเดียวกัน แม้จะไม่ใช่ในอัตราที่สูงมากนักก็ตาม
2. ให้ผลตอบแทนเป็นเงินก้อน
ระหว่าง 1 เดือนกับ 3 เดือน การเลือกแบบ 3 เดือน ย่อมได้เงินสดคืนเป็นกอบเป็นกำมากกว่า พร้อมทั้งดอกเบี้ยที่เห็นเป็นก้อนชัดเจนกว่า ถ้านักลงทุนอยากได้เงินเป็นก้อนคืน เลือกหุ้นกู้ที่ให้ผลตอบแทนแบบนี้ก็ถือเป็นการเลือกที่เหมาะสม
สำหรับนักลงทุนแล้วผลตอบแทนถือเป็นเรื่องใหญ่ นอกจากการเลือกสินทรัพย์ที่เหมาะสม อัตราผลตอบแทนที่น่าพึงพอใจ ระยะเวลาในการรับผลตอบแทนที่สอดคล้องกับเป้าหมายในการลงทุนก็เป็นเงื่อนไขที่ควรนำมาประกอบการพิจารณาด้วยเช่นกัน ถ้าผลตอบแทนหุ้นกู้ของเพียร์ พาวเวอร์ ตามข้อมูลข้างต้น สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนของคุณ สามารถสมัครลงทะเบียนเพื่อเป็นนักลงทุนกับเพียร์ พาวเวอร์ได้ตามด้านล่างครับ
_______________________________________________________________________
คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว