พฤติกรรมผู้บริโภคไทยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเปลี่ยนไปอย่างชัดเจน โดยเฉพาะหลังช่วงโควิด ผู้บริโภคให้ความสำคัญกับสุขภาพ ความสะดวก และความยั่งยืนมากกว่าเดิม
3 แนวโน้มนี้กำลังถูกขับเคลื่อนโดยเทคโนโลยี ไลฟ์สไตล์เมือง และโครงสร้างสังคมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ SME ที่รู้ทันและปรับตัวก่อน มีโอกาสเติบโตได้เร็วกว่าคู่แข่ง
บทความนี้สรุป 3 เทรนด์หลักที่กำลังมาแรง ซึ่ง SME สามารถนำไปใช้พัฒนาสินค้า บริการ และกลยุทธ์การเติบโตในปีต่อไปได้
1. Health: ความต้องการสินค้าและบริการด้านสุขภาพเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่ม
ผู้บริโภคหันมาให้ความสำคัญกับ
- โภชนาการ
- สุขภาพจิต
- ความปลอดภัยของอาหาร
- บริการดูแลตนเองแบบเฉพาะบุคคล
ตัวอย่างการเติบโตที่เห็นชัดคือ
- อาหารทางเลือก
- เครื่องดื่มสุขภาพ
- คลินิกความงาม
- ฟิตเนสและบริการดูแลสุขภาพเชิงป้องกัน
- ผลิตภัณฑ์ไร้น้ำตาล ไร้สารกันเสีย
แนวคิดสำหรับ SME:
- เพิ่มเมนูทางเลือกสุขภาพ
- ให้ข้อมูลโภชนาการชัดเจน
- เน้นแหล่งที่มาและความปลอดภัยของวัตถุดิบ
- ทำสินค้าแบบ “พรีเมียมเพื่อสุขภาพ”

2. Convenience: ผู้บริโภคยอมจ่ายเพื่อความสะดวกสบาย
สังคมเมือง การเดินทาง และไลฟ์สไตล์เร่งรีบทำให้ความสะดวกเป็นความต้องการหลัก ธุรกิจที่ช่วยประหยัดเวลา มักได้รับความนิยมต่อเนื่อง
ตัวอย่างเทรนด์ที่โตเร็ว:
- บริการส่งด่วน
- ร้านสะดวกซื้อรูปแบบใหม่
- ระบบชำระเงินที่รวดเร็ว
- โมเดล Subscription
- Fast service เช่น คลินิกทำหัตถการเร็ว ร้านอาหาร Grab & Go
แนวคิดสำหรับ SME:
- ลดเวลารอของลูกค้า
- ปรับกระบวนการให้เร็วขึ้น
- เพิ่มช่องทางสั่งซื้อออนไลน์
- บริการจัดส่งภายในพื้นที่ใกล้เคียง
- ทำแพ็กเกจ Subscription รายเดือน

3. Sustainability: การให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในสินค้าและบริการ
ลูกค้าจำนวนมาก (โดยเฉพาะ Gen Z และลูกค้าเมือง) เริ่มเลือกแบรนด์จากความยั่งยืน แม้จะไม่ใช่ผู้บริโภคทุกกลุ่ม แต่เป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงและเสียงดังในสื่อออนไลน์
ตัวอย่างพฤติกรรม:
- เลือกสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
- เลือกบริการที่ลดการใช้พลังงานหรือการปล่อยคาร์บอน
- สนใจที่มาของวัตถุดิบ
- ชื่นชอบธุรกิจที่สนับสนุนชุมชน
แนวคิดสำหรับ SME:
- ลดขยะบรรจุภัณฑ์
- ใช้วัตถุดิบที่ตรวจสอบที่มาได้
- แสดงข้อมูลความยั่งยืนอย่างโปร่งใส
- ออกแบบการผลิตที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

PeerPower สรุปให้
ทั้ง 3 เทรนด์นี้ Health, Convenience, Sustainability ไม่ได้มาแบบชั่วคราว แต่กำลังกลายเป็นพฤติกรรมพื้นฐานของผู้บริโภคไทย SME ที่เข้าใจและนำเทรนด์เหล่านี้ไปปรับใช้ จะมีโอกาสสร้างความแตกต่าง เพิ่มฐานลูกค้า และเติบโตได้อย่างมั่นคงในระยะยาว
คำเตือน : การลงทุนในหุ้นคราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นคราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว





-resized.png)

