จับตา 5 นวัตกรรมฟินเทค (FinTech) เปลี่ยนโลกธุรกิจการเงิน

by
July 2, 2018

จับตา 5 นวัตกรรมฟินเทค (FinTech) เปลี่ยนโลกธุรกิจการเงิน

คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในยุค Digital Transformation นี้ เทคโนโลยีและสื่อดิจิตอลได้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในทุกภาคส่วนธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ในการดำเนินงานของธนาคาร สถาบันการเงินและ FinTech ที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำ ความโปร่งใสที่สามารถตรวจสอบได้ และความปลอดภัยในการดำเนินงานเพื่อผลประโยชน์ของลูกค้าและบริษัทเอง

เรามาลองดูกันค่ะว่า 5 นวัตกรรมจากฟินเทคที่เข้ามามีบทบาทเปลี่ยนโลกธุรกิจทางการเงิน จะสามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้มากกว่าสถาบันการเงินดั้งเดิมอย่างไรค่ะ

1. ยกระดับความปลอดภัย

อ้างอิงจาก International Data Corporation (IDC) ได้ประเมินว่า ข้อมูลต่างๆ ที่ถูกส่งต่อและถ่ายทอดอย่างรวดเร็วในยุคดิจิตอลนี้ จะพุ่งสูงขึ้นถึง 44 ZB (พันล้านล้านล้านไบท์) ในปี 2020 จาก 4.42 ZB ในปี 2013 ดังนั้น ความสามารถในการเก็บและรักษาข้อมูลเหล่านี้ให้อยู่บนแพลตฟอร์มที่ปลอดภัย จึงทำให้เหตุผลข้อนี้เป็นหนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ FinTech หลายแห่งตัดสินใจนำเทคโนโลยีอื่นๆ นอกเหนือจากโปรแกรมป้องกันไวรัสทั่วไปเข้ามาใช้เพราะ

  • Big Data and AI (Artificial Intelligence): AI หรือเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นี้ สามารถจำแนกพฤติกรรมที่น่าสงสัยหรือการโอนเงินที่มีลักษณะผิดปกติได้
  • Machine Learning (ML): สามารถทำงานร่วมกับ AI ในการคาดการณ์และประเมินแนวโน้มที่มีความแม่นยำสูงต่อการถูกโจมตีทางข้อมูลในอนาคตได้
  • Blockchain: ไม่สามารถถูกแฮคข้อมูลได้ ดังนั้น การเก็บข้อมูลสำคัญ การถ่ายโอนข้อมูลทางการเงินและการลงทุนในดิจิตอลจึงปลอดภัย 100%
Fintech

2. ลดเวลาในขั้นตอนขอสินเชื่อ

ในขณะที่ธนาคารและสถาบันการเงินหลายแห่งใช้เวลา 4-6 สัปดาห์ในการพิจารณาเครดิตและความน่าเชื่อถือทางการเงินเพื่ออนุมัติการขอสินเชื่อ แต่ธุรกิจ FinTech เช่น P2P lending สามารถประมวลผลอนุมัติสินเชื่อให้กับผู้ขอสินเชื่อได้ภายใน 3 วัน โดยการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่น

  • Big Data and AI: อัลกอริทึมของ AI สามารถประมวลผลการขอสินเชื่อได้ภายในเวลาไม่ถึงนาที
  • ML: สามารถประมวล credit score และทำให้ขั้นตอนการประมวลผลเป็นไปอย่างรวดเร็วและแม่นยำ

ปัจจุบันบริษัทฟินเทคหลายแห่งเริ่มนำเอา Big Data & AI และ ML มาทำงานร่วมกันเพื่อผลลัพธ์ในการทำงานสูงสุด เช่น Prosper, Lending Club และ Funding Circle ที่ได้นำเอา Big Data, AI และ ML เช่น Lending Robot และ NSR Invest เข้ามาใช้ในแพลตฟอร์ม

3. เพิ่มกำไรให้บริษัท สร้างความพอใจสูงสุดให้ลูกค้า

การนำเทคโนโลยีเข้ามาใช้สามารถตอบโจทย์ทั้งบริษัทและลูกค้าได้ เพราะสามารถช่วยลดต้นทุนบริษัทในการจ้างพนักงานเพื่อประเมินคะแนนเครดิตได้ถึง 40% จึงนำไปสู่การลดค่าธรรมเนียมของผู้ใช้บริการ ในขณะเดียวกันยังสามารถคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพสูงสุดได้ ลูกค้าจึงได้รับความพึงพอใจในการใช้บริการมากขึ้น เช่น

  • Blockchain: P2P lending ที่นำเอา Blockchain มาใช้ พบว่าสามารถลดต้นทุนได้ต่ำกว่า marketplace อื่นๆถึง 95% โดยไม่มีการคิดค่าธรรมเนียมใดๆย้อนหลังและมีประสิทธิภาพในด้านความแม่นยำ ความปลอดภัยมากกว่าอีกด้วย
  • Big Data and AI: การนำเอา Robo-Analysts มาใช้ในการประเมินผลที่แม่นยำและรวดเร็ว สามารถลดจำนวนพนักงานในตำแหน่งพิจารณาเครดิตที่ใช้เวลานานกว่าได้

4. เพิ่มความน่าเชื่อถือ

เทคโนโลยีทางการเงินเข้ามาช่วยในการคำนวณเครดิตสกอร์ ซึ่งทำให้การประมวลผลที่ความน่าเชื่อถือและโปร่งใสมากยิ่งขึ้น โดย

  • AI และ Machine Learning: ธุรกิจ FinTech นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาประเมิน credit score เพื่อการประเมินผลสินเชื่อที่แม่นยำ และยังสามารถช่วยลดช่องว่างทางต้นทุนของสตาร์ทอัพได้อีกด้วย ในการพิจารณาโดย credit score นั้น มีตั้งแต่ FinTech ที่คิดค้นการคำนวณและ FinTech ที่นำระบบ credit score ที่ดีไปใช้
  • ฟินเทคที่ช่วยด้านการคิด credit score ผ่านการประมวลข้อมูลการใช้ social network เช่น Lenddo ที่นำเอาข้อมูลการมีตัวตนใน social network และพฤติกรรมการใช้ข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตมาใช้ เพราะ การมีตัวตนในอินเทอร์เน็ตสูง แปลว่ามีแนวโน้มในการหนีชำระหนี้น้อยลง และพฤติกรรมการไปสถานที่ต่างๆ ยังสามารถบ่งบอกความเสี่ยงทางการเงินได้อีกด้วย

  • สำหรับ Fintech ที่ต้องการใช้ระบบ credit scoring ที่ดีในการจำแนกหนี้เสียในระบบให้น้อยที่สุด เช่น Peer-to-Peer Lending (P2P lending) อาจนำ AI รวบรวมและประมวลผลข้อมูลจำนวนมาก โดยมี ML ประเมินการคาดการณ์ที่แม่นยำว่าผู้ขอสินเชื่อมีคุณสมบัติพอที่จะขอสินเชื่อหรือไม่ ซึ่งแตกต่างจากการประเมิน FICO score ที่ประเมินโดยนำอายุการดำเนินงานของบริษัทมาใช้ด้วย ดังนั้น startup ที่มีประวัติการดำเนินธุรกิจน้อยกว่า 3 ปีจึงไม่สามารถขอสินเชื่อได้
  • Blockchain: สามารถคัดกรองสินเชื่อที่ไม่ผ่านการอนุมัติ และช่วยในการดูแลสอดส่องสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติแล้ว และยังช่วยให้การชำระเงินเป็นไปโดยง่ายและปลอดภัย
  • Online Platform: จะทำให้นักลงทุนสามารถดูผลการลงทุน ผู้เข้าร่วมลงทุน ยอดขาย ผ่านระบบออนไลน์และ real-time บนอุปกรณ์เคลื่อนที่หรือคอมพิวเตอร์ได้ การทำธุรกรรมการเงินจึงโปร่งใจ ตรวจสอบได้และง่ายกว่าที่เคยเป็น

5. ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ถูกต้อง

AI: มีความสามารถในการแยกแยะข้อมูลดิบจากสิ่งรบกวนต่างๆ ซึ่งแตกต่างจากบริษัททั่วไปที่ใช้บุคลากรในการแยกแยะข้อมูลเหล่านี้ โดย AI สามารถสร้างแพทเทิร์นข้อมูลที่เข้าใจง่ายจากข้อมูลที่มีความซับซ้อนเพื่อให้ง่ายต่อการตัดสินใจได้ยกตัวอย่างเช่น บริษัทสินเชื่อ A ต้องการพิจารณาโปรไฟล์ผู้ขอสินเชื่อ โดยทั้งสองโปรไฟล์นี้ดูไม่มีความแตกต่างกัน แต่มีเพียงหนึ่งโพรไฟล์ที่ได้รับการอนุมัติ นั่นเป็นเพราะ AI สามารถพิจารณาข้อมูลเชิงคุณภาพและปริมาณเป็นพันข้อมูลสำหรับ 1 โปรไฟล์ได้ ซึ่งนี่เป็นการแยกแยะข้อมูลเชิงลึกที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้

ฟินเทค

และนี่คือ 5 เหตุผลสนับสนุนของการนำเทคโนโลยีมาใช้ที่ทำให้ FinTech มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้Debt Crowdfunding และ P2P Lending เป็นส่วนหนึ่งของ Lending Based Crowdfunding เหมือนกัน ซึ่งทั่วโลกเรียก P2P Lending ครอบคลุมแหล่งเงินทุนทั้ง 2 ประเภท อย่างไรก็ดีในประเทศไทยแยกเป็น 2 ส่วนออกจากกันอย่างชัดเจน ตามการกำกับดูแลด้านกฎหมาย Debt Crowdfunding อยู่ภายใต้การกำกับของ SEC ในขณะที่ P2P Lending อยู่ภายใต้ BOTสุดท้ายนี้ การศึกษาให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ในสิ่งที่ลงทุน และตัดสินใจโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่ครบถ้วนรอบด้าน จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสประสบความสำเร็จในการลงทุนให้กับทุกท่านได้เป็นอย่างดีครับ หากนักลงทุนท่านใด สนใจที่จะลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง สามารถอ่านละเอียดเพิ่มเติม หรือสมัครเป็นนักลงทุนของเพียร์ พาวเวอร์ได้จากลิงก์ด้านล่างเลยครับ

_______________________________________________________________________

คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว

Tags
No items found.
Author

สู่เป้าหมายทางการเงินที่ไกลขึ้น

ลงทุนและระดมทุนเพื่อธุรกิจผ่านคราวด์ฟันดิงกับ PeerPower
สมัคร