Digital Transformation คืออะไร และ SME ควรปรับตัวอย่างไรในยุคดิจิทัล

ในการสร้างธุรกิจให้เติบโต การปรับเปลี่ยนธุรกิจให้ทันกระแสโลกเป็นสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะในขณะที่ทุกคนเข้าถึงโลกออนไลน์ และการขายผ่านโลกดิจิทัลกำลังเฟื่องฟู เพียร์ พาวเวอร์ เชื่อว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินคำว่า Digital Disruption และในขณะเดียวกัน หลายคนก็ยังไม่ทราบว่ามันคืออะไรและสำคัญอย่างไรต่อผู้ประกอบการ SME ซึ่งต้องบอกว่าความสำคัญของโลกดิจิทัลคือโอกาสในการเติบโตอีกขั้นหนึ่งของเจ้าของธุรกิจ ซึ่งถ้าสามารถจับจุดได้ และเปลี่ยนธุรกิจของตนเองให้เข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลหรือ Digital Transformation ได้ความสำเร็จอีกขั้นก็อยู่ไม่ไกล แต่ในขณะเดียวกัน เจ้าของธุรกิจจำนวนมากก็ยังไม่สามารถบอกได้ว่า Digital Transformation คืออะไร

Digital Transformation คืออะไร

Digital Transformation คือ การเปลี่ยนแปลงองค์กรเพื่อให้เข้ากับเศรษฐกิจดิจิทัลที่แข่งขันกันด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ที่เป็นการปรับเปลี่ยนองค์กรให้ใช้ประโยชน์จาก Digital ให้ได้มากที่สุด ตั้งแต่การกำหนดเป้าหมายธุรกิจ วางแผน พัฒนาผลิตภัณฑ์ ตลอดจนช่องทางการส่งมอบสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภค เพื่อเปลี่ยนองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลที่มีวัฒนธรรม Digital เป็นตัวตั้งต้น และพัฒนาองค์กรให้เติบโตด้วยเทคโนโลยีต่อไป ซึ่งการ Digital Transformation ในธุรกิจสามารถเปลี่ยนแปลงได้ใน 3 ด้าน คือ

เปลี่ยนแปลงด้านรูปแบบการดำเนินธุรกิจ (Business Model)

รูปแบบของธุรกิจหรือ Business Model คือภาพรวมการทำงานของธุรกิจประเภทนั้นๆ ครอบคลุมตั้งแต่วิธีการดำเนินธุรกิจ กลุ่มลูกค้า(Customer Segment) การได้รายรับ(Revenue) รายจ่าย(Cost) ซึ่งแต่ละธุรกิจจะแตกต่างกันออกไป เมื่อเกิดการ Digital Transformation ขึ้น บางธุรกิจโมเดลนี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงในบางส่วนหรืออาจเกิดการเปลี่ยนแปลงหมดทั้งโมเดลก็ได้  เพียร์ พาวเวอร์ ขอยกตัวอย่างธุรกิจที่เห็นได้ชัดเช่นการใช้บริการรถยนต์โดยสาร เดิมโมเดลธุรกิจประเภทนี้คือการเรียกแท็กซี่

แต่ปัจจุบันเมื่อเกิดแอปพลิเคชั่นแบบ Grab รูปแบบธุรกิจประเภทนี้ก็เปลี่ยนไป หรือจะเป็นการส่งอาหาร ที่เดิมมีแต่พิซซ่าและฟาสต์ฟู้ดบางเจ้าเท่านั้นที่ให้บริการ แต่ปัจจุบัน ร้านค้าข้างทางหรือในตลาดก็สามารถให้บริการในส่วนนี้ได้ผ่านแอปลิเคชั่นสำหรับส่งอาหารโดยเฉพาะ เช่น Grabfood, Lineman เป็นต้นการเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจสำหรับเจ้าของธุรกิจ SME สามารถเริ่มจากเล็กๆ คือหยิบยืมธุรกิจที่มีโมเดลช่วยแก้ปัญหาต่างๆ มาใช้ก็ได้ เช่นเริ่มต้นด้วยการใช้ช่องทางออนไลน์ในการขาย และใช้บริการขนส่งต่างๆ จัดส่งให้กับลูกค้า ก็เป็นการเพิ่มช่องทางและเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจของเราไปได้หลายส่วนเช่นกัน

เปลี่ยนแปลงด้านการปฏิบัติการ (Business Operation)

ในการทำงานแบบยุคก่อนดิจิทัลนั้นพึ่งพากำลังมนุษย์เป็นหลัก เราอาจมีซอฟต์แวร์บางตัวที่ช่วยให้การทำงานง่ายขึ้น มีโปรแกรมบางอย่างที่ช่วยในการเก็บสต็อกสินค้า นั่นคือการนำเทคโนโลยีมาใช้ในยุคแรกๆ แต่เมื่อเกิด Digital Transformation มันได้ช่วยเปลี่ยนวิธีการทำงานและระบบปฏิบัติการให้พึ่งพาเทคโนโลยีมากขึ้น ลดทอนการใช้กำลังมนุษย์ และความซ้ำซ้อนในวิธีการทำงานให้น้อยลง เพราะธรรมชาติของดิจิทัลนั้นมีความแม่นยำมากกว่า และช่วยลดข้อจำกัดด้านเวลาและสถานที่ในการทำงานลง เราจะทำงานที่ไหนก็ได้ เพราะดิจิทัลเข้ามาช่วยให้การสื่อสารง่ายขึ้นซึ่งทำให้แต่ละส่วนในองค์กรทำงานอย่างสอดประสานกันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากพูดถึงการนำดิจิทัลมาปรับใช้กับองค์กร หลายคนจะคิดถึงการนำมาปรับใช้กับการตลาด แต่ในความเป็นจนริงแล้ว Digital Transformation สามารถพัฒนาองค์กรในภาพรวมได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นเฉพาะฝ่ายการตลาดเท่านั้น ฝ่ายบริหาร ฝ่ายบุคคล หรือแม้แต่ฝ่ายผลิตก็สามารถใช้ Digital Transformation เพื่อปรับปรุงองค์กรให้ดีขึ้นได้การเปลี่ยนแปลงด้านการปฏิบัติการเพื่อให้สอดรับกับ Digital Transformation นั้น เป็นประโยชน์ตั้งแต่ด้านการวางแผน พัฒนานวัตกรรม ปรับปรุงสินค้าและบริการ การขาย การตลาด ไปจนถึงการวัดผลการทำงานของทั้งองค์กร เช่นเดิมอาจจะต้องเข้าทำงาน 9 โมงเช้า ตอกบัตรหรือสแกนนิ้ว แล้วนั่งทำงาน ประชุมกันยาวๆ ในออฟฟิศ เอกสารการประชุมต้องปรินต์แจก งานแต่ละฝ่ายไม่

เปลี่ยนแปลงประสบการณ์ของลูกค้า (Customer Experience)

เมื่อองค์กรผู้ผลิตสินค้าและบริการเริ่มต้นด้วยการ Digital Transformation สิ่งที่ลูกค้าจะได้รับย่อมมีความต่างออกไป สิ่งที่เทคโนโลยีดิจิทัลจะสามารถทำได้ในแง่ประสบการณ์เป็นได้ตั้งแต่ความรู้สึกเช่น ง่ายกว่า เร็วกว่า มากกว่า ไปจนถึงสิ่งที่เป็นชิ้นเป็นอันจับต้องได้จริง เช่นการใช้บริการผ่านแอปพลิเคชั่นโมบายแบงค์กิ้งในโทรศัพท์มือถือ ที่เปลี่ยนและลดทอนการใช้ทรัพยากรต่างๆ ลงไปได้มาก ถ้าจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้นก็คือ ถ้าเป็นเมื่อ 10 ปีที่แล้วใครสักคนต้องการโอนเงินจากบัญชีเงินฝาก สิ่งที่เขาต้องทำคือเดินออกจากบ้าน ตามหาสาขาธนาคารหรือตู้เอทีเอ็ม สอดบัตรลงไป แล้วกดเลขบัญชีปลายทาง กดโอน และอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มขึ้นมาหากเป็นการโอนต่างธนาคาร แต่ในปัจจุบันแต่ละธนาคารแข่งขันกันดุเดือดในด้านการพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่เอื้อต่อ E-Commerce ช่วยให้การใช้จ่ายสำหรับสินค้าบริการต่างๆ ง่ายขึ้น รวมถึงการเสียภาษี ธุรกรรมกับราชการ การลงทุน ซื้อประกันภัยประกันชีวิต แม้กระทั่งการบริจาคทำบุญ ก็ทำได้ผ่านโมบายแบงกิ้ง

ผลที่ตามมาคือ การเดินออกจากบ้าน บัตรเอทีเอ็ม ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป ค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายเมื่อไปแบงคก์ก็ถูกตัดทอนให้หายไปเช่นกัน ในเมื่อทุกสิ่งผู้ใช้ทำได้ด้วยตัวเอง ธนาคารก็ไม่มีเหตุผลอะไรในการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมอีกต่อไปโมบายแบงค์กิ้งอาจเป็นภาพใหญ่ที่เจ้าของธุรกิจ SME ที่คุณอาจรู้สึกเป็นได้เพียงผู้ใช้บริการเท่านั้น แต่อย่าลืมว่า เมื่อพูดถึง Digital Transformation เราหมายถึงการเปลี่ยนแปลงองค์กรทั้งระบบ ธนาคารอาจใช้แอปพลิเคชั่นเพื่อรองรับการให้บริการลูกค้าในแง่การเปลี่ยนประสบการณ์ แต่สำหรับธุรกิจขนาดกลางและย่อม คุณสามารถใช้ข่องทางอื่นในการดูแลลูกค้าได้ เช่นอาจใช้เฟชบุ๊ค ไลน์ อิสตาแรมในการแจ้งข่าวสาร โปรโมชั่น ไปจนถึงส่งโฆษณาไปให้ตรงกับผู้ใช้งาน สร้างปฏิสัมพันธ์ให้เกิดความผูกพันระหว่างลูกค้ากับผลิตภัณฑ์ของเรา ไปจนถึงการแก้ปัญหาให้กับลูกค้าได้รวดเร็วทันใจกว่าช่องทางอื่นเช่นโทรศัพท์ หรืออีเมล์

Digital transformation จะถูกนำมาใช้เพื่อเปลี่ยนแปลงธุรกิจได้อย่างไร

การเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลสามารถสร้างประโยชน์ให้เกิดขึ้นกับธุรกิจในหลายด้าน และเป็นประโยชน์ในหลายส่วนด้วยกัน ซึ่งสิ่งที่ Digital Transformation สามารถเปลี่ยนแปลงให้เกิดประสิทธิภาพสำหรับธุรกิจอย่างเห็นได้ชัด มีทั้งหมด 5 ส่วนด้วยกัน

ใช้เพื่อปรับปรุงธุรกิจให้ดีขึ้น

ข้อดีของดิจิทัลคือการตัดข้อจำกัดด้านพื้นที่ เวลา ทิ้งไป และเป็นช่องทางที่ดีในการเข้าถึงและปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า เจ้าของธุรกิจ SME สามารถนำข้อดีเหล่านี้มาใช้กับกิจการของคุณได้ เช่นสำรวจดูว่าปัญหาของลูกค้าที่เกิดจากระยะทางหรือเวลาในการซื้อคืออะไร ถ้าเพิ่มช่องทางออนไลน์หรือขายจากหน้าเฟชบุ๊คจะช่วยลดข้อจำกัดเหล่านั้นลงหรือไม่ หรือมีปัญหาที่เกิดขึ้นจากการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าในช่องทางเดิม เช่นการจ่ายบิล การติดตามสินค้า Digital Transformation ก็สามารถนำมาปรับใช้ในส่วนนี้ได้เช่นกัน

ใช้เพื่อสร้างธุรกิจให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

เทคโนโลยีดิจิทัลมีอยู่มากมาย สิ่งที่เจ้าของธุรกิจควรทำเพื่อปรับเปลี่ยนกิจการให้ดีขึ้นคือการกำหนดแนวคิดทางธุรกิจของตนเองให้ชัดเจน และมองหาเทคโนโลยีดิจิทัลที่ไปกันได้กับแนวคิดนั้นมากที่สุดแล้วนำมาปรับใช้กับสินค้าและบริการตลอดจนกระบวนการดำเนินการของตัวเองเพื่อให้การทำธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดย Digital Transformation แบบนี้ คุณที่เป็นผู้ประกอบการต้องไม่โลภ พยายามยัดทุกอย่างทั้งจำเป็นและไม่จำเป็นลงมาในธุรกิจของตัวเอง ควรเลือกเฉพาะสิ่งที่เหมาะสมที่สุด เพื่อไม่ให้กลายเป็นต้นทุนทางดิจิทัลที่ต้องแบกรับโดยไม่สร้างประโยชน์เท่าที่ควร

ใช้เพื่อสร้างวัฒนธรรมองค์กรและบุคลากรที่มีคุณภาพ

การเปลี่ยนธุรกิจให้เป็นธุรกิจดิจิทัล ไม่ใช่แค่การซื้อเครื่องมือหรือเครื่องจักรที่ดีมาตั้งไว้แล้วจบ ผู้ประกอบการต้องมีพนักงานที่พร้อมจะเรียนรู้หรือตอบรับการใช้งานเทคโนโลยีเหล่านั้นด้วย ถ้าเจ้าของกิจการมีจุดมุ่งหมายเพื่อ Digital Transformation การเตรียมบุคลากรให้มีความพร้อมสำหรับเทคโนโลยีเหล่านั้นถือเป็นสิ่งสำคัญ นอกจากนี้การที่พนักงานเข้าใจภาพธุรกิจดิจิทัลและเป้าหมายที่บริษัทมุ่งจะเป็นก็จะช่วยเสริมศักยภาพในการพัฒนาองค์กรให้เป็นองค์กรดิจิทัลได้ง่ายขึ้นโดยทำได้ตั้งแต่การฝึกอบรม การสร้างชั่วโมงแบ่งปัน (Sharing Session) ระหว่างแต่ละแผนกในองค์กรขึ้นมาก็ได้

ใช้เพื่อกำหนดเส้นทางของธุรกิจ :: Business Road map

ยิ่งธุรกิจของคุณมีขนาดใหญ่และดำเนินการมานานโดยปราศจากเทคโนโลยี การ Digital Transformation ยิ่งต้องค่อยเป็นค่อยไป เพราะต้องประเมินผลได้ผลเสียรวมทั้งความเสี่ยงไปทีละขั้นตอน แม้การเปลี่ยนแปลงเข้าสู่ดิจิทัลจะมีประโยชน์หลายอย่าง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะดีกับทุกอย่างหรือทุกองค์กร หากคุณต้องการปรับเปลี่ยนธุรกิจของคุณให้กลายเป็นธุรกิจดิจิทัล คุณควรวางแผนแต่ละส่วนไปแต่ละขั้นตอน จากส่วนเล็กๆ แล้วค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นจากความสำเร็จที่ได้รับ หรือแนวทางการแก้ปัญหาที่ค้นพบระหว่างนั้น เพื่อที่หากเกิดข้อผิดพลาดขึ้นจะได้แก้ไขได้ทัน ไม่ลุกลามจนกลายเป็นปัญหาใหญ่ทีเดียวหลายส่วน ซึ่งอาจทำให้ผู้ประกอบการ SME ไม่สามารถรับมือกับมันได้ทั้งหมด นำไปสู่การกำหนดแนวทางการดำเนินธุรกิจในระยะยาวต่อไป

ใช้เพื่อเป็น KPI ร่วมกันขององค์กร

การทำให้ทุกฝ่ายในบริษัทมีเป้าหมายที่สอดคล้องกับเป้าหมายใหญ่ขององค์กร โดยมีตัวชี้วัดที่ชัดเจน จะช่วยให้ธุรกิจของคุณขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกันและประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ได้เร็วขึ้น การตั้งเป้าหมายดังกล่าวคือการกำหนด KPI ขององค์กร ซึ่งในส่วนนี้ Digital Transformation สามารถช่วยได้ ทั้งในแง่การแชร์เป้าหมายร่วมกันของแต่ละฝ่าย วิธีการบรรลุเป้าหมายร่วมกัน ด้านการปฏิบัติการ ตลอดจนการวัดผล เพราะเทคโนโลยีดิจิตอลเอื้อต่อการแบ่งปันข้อมูล เจ้าของธุรกิจอาจใช้ไดร์ฟกลางของบริษัทเพื่อให้แต่ละฝ่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลหรืองานที่ไม่เป็นความลับระหว่างกันได้ รวมทั้งสามารถแท็คกิ้งผลการปฏิบัติงานของแต่ละแผนกในบริษัทว่าเหมาะสมกันหรือไม่ก็ได้ด้วยเช่นกัน

Digital Transformation ดีอย่างไรต่อ SME

ตามที่บอกไปแล้วว่า Digital Transformation ดีในแง่ความสะดวกว่า รวดเร็วกว่า และใช้ประโยชน์ได้หลากหลายกว่า ซึ่ง SME สามารถหยิบจับมาใช้ได้ โดยไม่จำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาใช้เอง โดยสามารถทำได้ดังต่อไปนี้

เพิ่มช่องทางการตลาดออนไลน์

ดิจิทัลทำให้ข้อจำกัดเรื่องหน้าร้านหายไป เจ้าของธุรกิจสามารถเพิ่มช่องทางการขายได้ง่ายๆ ด้วยการใช้บริการเว็บไซต์ E-Commerce ที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าและให้บริการครบทั้งด้านการขนส่งสินค้าและการชำระเงิน หรือใช้บริการโซเชียลมีเดียแบบ Facebook ที่มีฟีเจอร์ส Shop ที่สามารถเปิดเป็นร้านค้าในแฟนเพจ และดูแลด้าน Payment ได้ในเวลาเดียวกัน หรือจะเป็นการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ การดูแลหลังการขาย ก็สามารถใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์ได้

จัดการช่องทางการใช้จ่าย

หลายธนาคารมีบริการพิเศษสำหรับผู้ประกอบการ SME โดยเฉพาะ คือเปิดเป็นบัญชีร้านค้า มีเลขที่ออกบิลเรียบร้อย ซึ่งสะดวกและง่ายต่อการทำธุรกรรมต่างๆ ของผู้ประกอบการมาก เพราะสามารถรับชำระบิลได้จากแอปพลิเคชั่นของธนาคารได้โดยตรง มีข้อมูลชัดเจนช่วยลดความสับสนในการทำบัญชีให้น้อยลง รวมทั้งเพิ่มความสะดวกในการใช้จ่ายให้กับลูกค้าที่ถนัดทำธุรกรรมผ่านโมบายแบงค์กิ้ง ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

เป็นช่องทางการหาแหล่งเงินทุน

ในยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลยังไม่มีบทบาทมากแบบในปัจจุบัน ถ้าเจ้าของธุรกิจ SME ต้องการแหล่งเงินทุน ที่ที่จะต้องไปหาคือธนาคารหรือสถาบันการเงินเพื่อ SME แต่ในปัจจุบันเมื่อ Digital Transformation เข้ามามีบทบาทต่อธุรกิจมากขึ้น การใช้เทคโนโลยีเพื่อเข้าถึงแหล่งทุนก็ง่ายขึ้น นอกจากสินเชื่อส่วนบุคคลที่หลายคนคุ้นเคยกันดีแล้ว การระดมทุนผ่านหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงแบบเพียร์ พาวเวอร์ ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีเข้าถึงแหล่งทุนสำหรับเจ้าของธุรกิจที่ไม่ยากจนเกินไป

พัฒนาองค์ความรู้ของคนในองค์กร

การใช้ Digital Transformation เพื่อพัฒนาองค์กรในภาพรวม ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ถ้าทุกคนในบริษัทพร้อมจะเรียนรู้สิ่งต่างๆ ที่มีในโลกออนไลน์ ความรู้ในการทำงานทั้งหลายมีทั้งแบบฟรีและแบบจ่ายเงินเล็กน้อยเพื่อให้ได้มา

Digital Transformation สร้างความสำเร็จให้ธุรกิจใดบ้าง

Walmart

ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ของอเมริกาอย่าง Wal-Mart ได้มีการปรับแต่ง Software Stake ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มแบบกำหนดเอง ซึ่งรวมถึงฟีเจอร์ค้นหาแบบใหม่ และแอพพลิเคชั่นอีกมากมาย แพลตฟอร์ม E-Commerce ใหม่นี้ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยให้ผู้ค้าปลีกสามารถแข่งขันกับคู่แข่งได้ ทั้งนี้ยังมีการเปิดตัว OneOps แพลตฟอร์ม Open source ที่เปิดให้เหล่าโปรแกรมเมอร์สามารถทดสอบและสลับกันระหว่างผู้ให้บริการ Cloud มากมาย ซึ่งนี่ถือเป็น Digital Transformation ครั้งใหญ่เลยทีเดียว

Walgreens

ร้านขายยาคู่แข่งสำคัญของ CVS ก็ไม่น้อยหน้า โดยมีการปรับเปลี่ยนองค์กรและกระบวนการทางธุรกิจเช่นกัน โดยได้มีการออกแบบแอพพลิเคชั่นบนมือถือของบริษัทใหม่ทั้งหมด ซึ่งลูกค้าสามารถจัดการตารางการรับประทานยาของตนเอองได้จาก Apple Watch และมีฟีเจอร์ให้สมาชิกสามารถสะสมและแลกคะแนนเมื่อชำระเงินผ่าน Apple Pay อีกด้วยเพียร์ พาวเวอร์ หวังว่า Digital Transformation จะช่วยพัฒนาธุรกิจของคุณได้อย่างตรงจุด ด้วยประโยชน์ทั้งหมดของมันที่กล่าวมา เพื่อให้กิจการของคุณเติบโตและสามารถแข่งขันได้ในเศรษฐกิจยุคดิจิทัลแบบในปัจจุบัน และถ้าหากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ SME ที่ต้องการแหล่งเงินทุนรูปแบบใหม่ อยากลองระดมทุนผ่านหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงกับเพียร์ พาวเวอร์ ดูล่ะก็ คลิกด้านล่างนี้ต่อไปได้เลย

_______________________________________________________________________

‍คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว