5 สัญญาณ ธุรกิจของคุณถึงเวลารีไฟแนนซ์
เจ้าของกิจการหลาย ๆ คนอาจมีประสบการณ์ใช้บัตรเครดิตในการทำธุรกิจ ในช่วงที่บริษัทขาดกระแสเงินสด ไม่แปลกที่จะมีการใช้บัตรเครดิตใช้จ่ายยามจำเป็น การใช้บัตรเครดิตถึงจะมีข้อดี แต่ในบางครั้งอาจทำให้เจ้าของกิจการเป็นหนี้โดยไม่รู้ตัว และต้องเผชิญกับอัตราดอกเบี้ยที่สูงถึง 28% ต่อปี การจ่ายดอกเบี้ยที่เกิดจากบัตรเครดิตทุกเดือนเป็นระยะเวลานาน ทำให้หลายคนเริ่มฉุกคิดว่า เงินก้อนนี้สามารถนำมาทำประโยชน์อื่น ๆ ให้กับบริษัทได้ เช่น ซื้ออุปกรณ์สำนักงานที่จะช่วยผ่อนแรงพนักงาน ซื้อสต็อกสินค้าเพิ่มเพื่อทำกำไร ฯลฯ
เมื่อไรที่ SME ควรเริ่มพิจารณาขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance)
ถ้าคุณคิดว่าถึงเวลาแล้วที่คุณต้องกำจัดภาระดอกเบี้ยเหล่านี้ ลองมาดูค่ะว่ามีเหตุการณ์ใดบ้างที่ SME ควรพิจารณาขอสินเชื่อรีไฟแนนซ์ (Refinance) เพื่อลดภาระดอกเบี้ย โดยสามารถลดได้มากถึง 12-15% ต่อปี
เมื่อคุณได้รับอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำลง
อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำลง จะทำให้คุณประหยัดรายจ่ายรายเดือน ร่วมถึงต้นทุนดอกเบี้ยตลอดระยะเวลาที่กู้เงินลงได้ ตัวอย่างเช่น ถ้าหากคุณกู้เงินเป็นจำนวน 6,000,000 บาท การลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จาก 5% ลงเหลือ 4% สามารถช่วยคุณประหยัดดอกเบี้ยได้ถึง 11% ในช่วงระยะเวลาการผ่อน 30 ปีลองคำนวณว่าคุณจะประหยัดดอกเบี้ยจากการรีไฟแนนซ์ (Refinance) ได้มากแค่ไหน
เมื่อคุณต้องการเคลียร์หนี้บัตรเครดิตที่น่าปวดหัว
การกู้สินเชื่อในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเพื่อนำมาเคลียร์หนี้บัตรเครดิตหลาย ๆ ใบ (ที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงถึง 18-28%) ทำให้ภาระของคุณเบาลงและจัดการได้ง่ายขึ้น เพราะเหลือหนี้เพียงก้อนเดียวคือสินเชื่อเพื่อธุรกิจที่คุณรีไฟแนนซ์มาใหม่และยังช่วยเพิ่มเครดิตสกอร์ได้อีกด้วย
เมื่อคุณอยากย่นระยะเวลาชำระหนี้ให้สั้นลง
ถ้าหากคุณมีเป้าหมายว่าอยากปลอดหนี้โดยเร็วที่สุด โดยที่ตัวคุณเองมีความสามารถในการชำระหนี้ต่อเดือนที่มากขึ้น คุณอาจสนใจการรีไฟแนนซ์เพื่อลดระยะเวลาการชำระหนี้ให้สั้นลง แม้ว่าจำนวนเงินที่ต้องผ่อนต่อเดือนสูงขึ้น แต่หากคิดคำนวณแล้ว มันก็คุ้มค่ากว่าในระยะยาว เพราะคุณจะได้ประหยัดต้นทุนภาระทางดอกเบี้ยทั้งหมดลง
เมื่อคุณอยากผ่อนชำระต่อเดือนลดลง โดยการยืดระยะเวลาชำระหนี้ให้นานขึ้น
ในทางกลับกัน กรณีที่คุณอยากลดภาระค่าใช้จ่ายต่อเดือนเพื่อเพิ่มสภาพคล่อง คุณอาจจะลองรีไฟแนนซ์เพื่อยืดระยะเวลาการชำระหนี้ให้นานขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถทำได้
เมื่อคุณอยากรักษาอัตราเงินกู้ให้คงที่ เพื่อป้องกันความเสี่ยง
คุณสามารถรีไฟแนนซ์เพื่อเปลี่ยนเงื่อนไข จากดอกเบี้ยเงินกู้แบบลอยตัว (Variable rate) เป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ (Fixed Rate) ได้ เพราะในบางกรณี ถ้าหากเราได้กู้เงินในอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำ การเลือกอัตราดอกเบี้ยให้เป็นแบบคงที่ไว้สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่ต้นทุนการกู้จะสูงขึ้นได้
เพียร์ พาวเวอร์ คือผู้ให้บริการระบบคราวด์ฟันดิงที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งระบบคราวด์ฟันดิงคือตัวกลางในการระดมทุนของธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (SMEs) ด้วยวิธีการออกหุ้นกู้คราวด์ฟันดิง ในขณะเดียวกันเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับนักลงทุนที่สามารถเข้ามาลงทุนในธุรกิจที่เสนอขายหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงในแพลตฟอร์มได้ สำหรับท่านใดที่สนใจ สามารถเข้าไปดูรายละเอียดได้ ที่นี่
_______________________________________________________________________________________
คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว