Perspectives

ข้อคิดการลงทุนจาก "วอร์เรน บัฟเฟตต์" และ "ชาร์ลี มังเกอร์"

by
PeerPower Team
June 30, 2023

ข้อคิดการลงทุนจาก "วอร์เรน บัฟเฟตต์" และ "ชาร์ลี มังเกอร์"

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา บริษัท Berkshire Hathaway ได้จัดงานประชุมสามัญประจำปี (AGM) และก็กลายเป็นงานประชุมที่นักลงทุนทั่วโลกให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

งานนี้มีนักลงทุนเข้าร่วมมากกว่า 40,000 คน!! ถูกเรียกว่าเป็น "WoodStock for Capitalist" (อารมณ์เหมือนเทศกาลดนตรีบิ๊กเมาเทน แต่เป็นเวอร์ชั่นนักการเงินแทนนักดนตรี) แถวรอเข้างานยาวเหยียด เวทีการประชุมใหญ่เหมือนคอนเสิร์ต มีคนทำ vlog รีวิวประสบการณ์ในห้องสัมมนา ฯลฯ

งานประชุมสามัญประจำปีของ Berkshire Hathaway ขอบคุณภาพจาก Investopedia

ถ้าใครไม่คุ้นชื่อ ขอเล่าสั้น ๆ ว่า Berkshire Hathaway คือ Holding Company เจ้าใหญ่มากของอเมริกา มีมูลค่ามากกว่า 7 แสนล้านดอลลาร์ และถือเป็นบริษัทที่มีมูลค่าสูงสุดติดอันดับต้น ๆ ของโลก

ซึ่งเจ้าของบริษัทนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก 2 พ่อมดแห่งโลกการเงิน ซึ่งคือ "วอร์เรน บัฟเฟตต์" และ "ชาร์ลี มังเกอร์" บริษัทถือหุ้นอยู่ในหลายธุรกิจทั้ง Apple, Coco-Cola, Chevron ฯลฯ

ช่วงต้นของงานประชุม เราจะเห็นบริษัทออกมาแถลงผลประกอบการณ์จากปีที่ผ่านมา และ business move สำคัญ ๆ ของธุรกิจ และช่วงท้ายสุดจะเป็นการตอบคำถามโดยคณะผู้บริหารของบริษัท

ทันทีที่เข้าสู่ช่วงถาม-ตอบ บรรดานักลงทุนก็โยนคำถามใส่ผู้บริหารทันที ถ้าใครไปดูเทปบันทึกภาพจะเห็นว่านักลงทุนแทบทุกคนมือสั่น (ฮ่า) เพราะ บัฟเฟตต์ และ มังเกอร์ เป็นคนตอบคำถามเอง (แบบตัวเป็น ๆ) 

ทั้ง 2 คนพูดอะไรไปบ้าง น่าสนใจมากแค่ไหน PeerPower ได้สรุปมาให้คุณแล้ว!

ปล. งานประชุมนี้ยาวประมาณ 7 ชั่วโมง พูดหลายเรื่องมาก เราลองจับประเด็นหลัก ๆ ได้ประมาณนี้

ความเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ตลาดทุนปี 2023

มุมมองต่อวิกฤตธนาคารและสภาพตลาด

ถ้าใครตามข่าวจะเห็นว่าภายใน 2 เดือน แบงค์ใหญ่ในอเมริกาล้มไปแล้ว 3 เจ้า ซึ่งคือ Silicon Valley Bank, Signature Bank และ ล่าสุด First Republic ที่เพิ่งขายสินทรัพย์ให้ JP Morgan 

จุดนี้อาจเป็นสัญญานแรกให้นักลงทุนตื่นตัว แล้วตั้งคำถามเกี่ยวกับภาคธนาคารว่าจะเป็นยังไงต่อ เพราะดูทีท่าแล้วน่าจะเป็น domino effect

ทั้งสองคนเลยให้ความเห็นประมาณนี้ 

ควรพิจารณาสถานการณ์ตลาดทุนตอนนี้ยังไงดี? 

เงินฝากจะปลอดภัยเพราะเป็นไปไม่ได้ที่รัฐบาลสหรัฐจะปล่อยให้ล้ม แต่รัฐต้องคุ้มครองเงินฝากมากกว่า 250,000 ดอลลาร์ ที่แน่ ๆ นักลงทุนมีแนวโน้มจะเสียเงินจากการลงทุน

ทำไม First Republic Bank ถึงล่ม?

เพราะธนาคารออกสินเชื่อดอกเบี้ยคงที่ที่ให้ระยะเวลานาน พอ FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ย ธนาคารเลยขาดทุนย่อยยับ ทั้งนี้ผู้บริหารควรรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะนักลงทุนไม่ได้ทำอะไรผิด ถ้าเกิดเหตุการณ์อะไรที่ทำให้แบงค์ล้ม คนออกนโยบายก็ควรที่จะต้องรับผิดชอบ

เสริม: ขออธิบายเพิ่มเกี่ยวกับเหตุการณ์ของ First Republic ก่อนหน้านี้ธนาคารออก "สินเชื่อบ้านดอกเบี้ยคงที่ ระยะเวลาผ่อนนาน" (nongovernment guaranteed mortgages) เพื่อกระตุ้นยอดขาย ประเด็นคือด้วยความที่ระยะเวลาผ่อนมันยาวเป็น 10 ปี พอ FED ประกาศขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง ธนาคารเลยขาดทุน

ซึ่งจากจุดนี้ บัฟเฟตต์ มองว่ามันคือการบริหารงานที่ผิดพลาดไม่ใช่กลไลตลาด ดังนั้นคนที่บริหารนั่นแหละต้องออกมามารับผิดชอบ

กฎหมายเรื่อง Holding Company ฉบับปี 1970 ส่งผลอย่างไรบ้างกับบริษัท?

ถ้ากฎหมายนั้นไม่ผ่าน ป่านนี้ Berkshire Hathaway คงมีบริษัทแบงค์ในมือมากกว่าบริษัทประกัน ซึ่งถ้ามีบริษัทแบงค์ในมือ ก็อาจจะบริหารทำกำไรได้

เสริม: Berkshire Hathaway เป็นบริษัทที่ขึ้นชื่อว่าชอบซื้อแบงค์ ในงานประชุมบัฟเฟตต์เล่าว่าเคยตระเวณทั่วชิคาโก้เพื่อดูว่าจะซื้อแบงค์ไหนดี แต่พอกฎหมายนี้ออกมาเลยต้องขายหุ้นแบงค์ออกเกือบหมด คิดดูตอนนี้ก็น่าสนุกว่าถ้าแกเป็นเจ้าของแบงค์จริง ๆ ตลาดทุนจะเป็นยังไงต่อ

ทำไม Buffett ขายหุ้นธนาคารออกเกือบหมด?

เพราะมีเหตุการณ์ที่คาดเดาไม่ได้เยอะเกินไป และมีตัวแปรทางการเมือง-นักการเมือง มาเกี่ยวข้อง ปัจจุบันบริษัทมีธนาคารอยู่ในมือที่เดียว คือ Bank of America 

ถ้าตลาดอสังหามูลค่าตก ธนาคารจะได้รับความเสี่ยงอะไรบ้าง? 

คนส่วนมากกู้ยืมโดยทำสัญญาประเภทไม่มีสิทธิไล่เบี้ย (non recourse; ริบทรัพย์ไม่ได้) กรณีที่ลูกหนี้จ่ายไม่ได้ ธนาคารก็จะเสี่ยงเพราะมีแนวโน้มที่จะไม่ได้เงินคืนทั้งหมด และธนาคารก็อาจจะลังเลที่จะรับจำนองเช่นกัน เพราะสินทรัพย์พวกนี้มีแนวโน้มที่มูลค่าจะตกเรื่อย ๆ แถมขายยากกว่าเดิม (ข้อนี้คนที่เล่นอสังหาอาจจะต้องมองหาสินทรัพย์อื่น ๆ ด้วยเช่นกัน )

ทั้งนี้สุดท้ายบัฟเฟตต์แนะนำว่า


“งบดุลบอกอะไรมากกว่าที่คิด พิจารณาให้ดีทุกครั้ง เพราะอย่างน้อยที่สุดมูลค่าของบริษัทนั้น ๆ ก็ควรที่จะสัมพันธ์กับงบดุลที่บริษัทมี รายได้อย่างเดียวบอกไม่ได้ทุกอย่าง  

ความเห็นเกี่ยวกับทิศทางการลงทุน

หมวดนี้จะเป็นเรื่องอื่น ๆ ที่บัฟเฟตต์กับมังเกอร์พูดเกี่ยวกับการลงทุน ความเห็นพวกนี้หลายข้อก็สามารถใช้เป็น เกณฑ์ หรือ indicator ได้ว่าทำไม Berkshire Hathaway ถึงทำธุรกิจในทิศทางนั้น ๆ สรุปได้ประมาณนี้

ในจุดนึง ผู้บริหารต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอะไรระหว่าง “การเติบโต” และ “กำไร”

ตัวอย่างที่เห็นชัดในบริษัท Tech ยักษ์ใหญ่ที่เคยโตอย่างก้าวกระโดด พอวันนึงพลิกมาทำกำไร เปอร์เซ็นต์การเติบโตของบริษัทกลับไม่สูงเหมือนเดิม นี่เป็นเรื่องปกติที่เกิดขึ้นได้ ซึ่ง Buffett แนะนำว่าผู้บริหาร “ต้องตัดสินใจว่าจะเลือกอะไร เพื่อกำหนดทิศทางต่อไปบริษัท” 

ซึ่งสิ่งนี้ก็อาจเป็นสัญญาณบอกใบ้ได้หลายอย่างต่อนักลงทุน ดังนั้นอย่าลืมพิจารณางบดุลของบริษัท

AI จะสร้างโอกาสให้กับการลงทุน 

ตอนปี 2016 เราเคยเขียนบล็อกว่า AI จะมาช่วยเรื่องการลงทุนได้ ปัจจุบันปี 2023 เรายังเชื่อแบบนั้น เพราะบทบาทของสิ่งประดิษฐ์นี้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในแค่ไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ในงานสัมมนามีคนโยนคำถามนี่ไปให้บัฟเฟตต์ เหมือนกัน ซึ่งเขาให้ความเห็นว่า

“ต่อให้โลกเปลี่ยนไปมากแค่ไหน แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนเลยคือ ความคิดมนุษย์”

Buffett มองว่า AI จะเข้ามามีโอกาสต่อการลงทุนเยอะมาก แต่ถึงอย่างนั้นวิธีคิดของคนจะยังเหมือนเดิม และโดยพื้นฐานแล้วจะมีคนได้ประโยชน์และเสียประโยชน์เสมอ นักลงทุนต้องกะจังหวะให้ถูกว่าจะเป็นคนแบบไหน 

แต่กลับกัน Munger มองโดยรวมว่า การแข่งขันจะยิ่งสูงขึ้น ซึ่งถ้าจุดนั้นมาถึงเราอาจจะต้องทำตัวให้ชินกับผลกำไรที่ได้น้อยลง

ความเสี่ยงด้าน Geopolitical มีผลต่อการลงทุนเสมอ ระวังให้ดี

เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Berkshire Hathaway เพิ่งขายหุ้นที่มีราว 86% ของ TSMC ต่อตลาด

TSMC หรือ Taiwan Semiconductor Manufacturing Company คือ บริษัทผลิตชิปรายใหญ่มากของโลกคนครึ่งโลกพึ่งพาชิปจากที่นี่ (รวมทั้ง Apple เองด้วย) บริษัทนี้มีผลประกอบการดี แต่ปัญหาเชิงภูมิรัฐศาสตร์กลับเป็นเรื่องที่น่ากังวล

ปัจจุบันบริษัทตั้งอยู่ในไต้หวัน และยังมีกรณีพิพาทกับจีนเสมอ ความไม่แน่นอนทางการเมืองเป็นเหตุผลให้บริษัทขายหุ้นออกไปเกือบหมด (อันนี้แอบคล้ายความเห็นเกี่ยวกับแบงค์ข้างบน อะไรที่เกี่ยวกับการเมืองแกจะถอนตัวออกเสมอ) เพราะต่อให้บริษัทยิ่งใหญ่แค่ไหน แต่ถ้ามีปัจจัยทางการเมืองเกี่ยวข้อง ความเสี่ยงยิ่งสูงมากเสมอ 

ควรช้อนหุ้นคืนเมื่อมูลค่าต่ำกว่าตลาด 

เมื่อเดือนมีนาคม Berkshire Hathaway เริ่มช้อนหุ้นคืน คนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น หรือเป็นสัญญาณอะไรของบริษัท

บัฟเฟตต์ ตอบว่า จริงๆ ไม่มีอะไร เป็นไปตามกลไกปกติของตลาด ถึงจุดหนึ่งเมื่อหุ้นไม่น่าดึงดูดหรือมูลค่าต่ำลง บริษัทจะเริ่มทะยอยช้อนคืนและกลับไปพัฒนาธุรกิจเพื่อให้หุ้นกลับมาน่าดึงดูดอีกครั้ง

ข้อนี้แกฝากบอกบรรดานักลงทุนว่า "ถ้าหุ้นยังราคาดีอยู่ก็อย่าไปช้อน ไม่คุ้มเสีย"

ถือเงินสดเป็นเรื่องที่ดี แต่ไม่ใช่เรื่องที่มีประโยชน์ 

อันนี้เป็นความเห็นที่ Buffett ให้ตอนที่มีคนถามว่าจะมีอะไรมาแทนเงินดอลลาร์ได้หรือไม่ คำตอบของแกคือไม่มี แต่การถือเงินไว้เฉย ๆ ก็ไม่มีประโยชน์ 

หากมองในมุมเศรษฐกิจ แน่นอนว่าทุกวันนี้เงินเฟ้อ แต่วิธีรับมือที่ดีที่สุดคือเอาไปลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ เพื่อเพิ่มทุน หรือไม่ก็ลงทุนในตัวเอง วิธีนี้จะเป็นการสร้างนความมั่งคั่งที่ยั่งยืนที่สุด

I mean the economy is productive. And you will succeed with your talents. But you won’t succeed by hoarding dollars, you’ll just be — you’ll just succeed by the fact that your value to the community, which is a rich community overall, is sustained. And so the best investment is always in yourself. That’s the answer I would give you.

ทั้งหมดนี้คือความเห็นที่ทั้ง 2 คนฝากต่อนักลงทุนซึ่งหลายข้อก็เป็นข้อคิดที่น่าสนใจ แน่นอนว่าการลงทุนทุกประเภทคือความเสี่ยงแต่อย่าทิ้งโอกาส และคอยมองมองหาโอกาสและกระจายความเสี่ยงไปยังสินทรัพย์อื่น ๆ เสมอ

สุดท้ายนี้อย่าลืมลงทุนในตัวเองเพราะนี่เป็นการลงทุนที่ยั่งยืนที่สุด 

ใครอยากรู้เรื่องอะไร inbox มาคุยกับเราได้ที่ Facebook: PeerPower Thailand สัญญาว่าจะเอาเรื่อง insight ใต้เตียงการลงทุนมาเล่าให้ฟังอีก เจอกันได้ที่บทความหน้า

คำเตือน : การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงผ่านเพียร์ พาวเวอร์ เป็นการลงทุนสำหรับนักลงทุนที่มีความรู้ความเข้าใจเพียงพอทั้งด้านความเสี่ยง และความสามารถในการตัดสินใจลงทุนด้วยตนเอง ความเสี่ยงในที่นี้หมายถึงความเสี่ยงด้านสภาพคล่องของหลักทรัพย์และความเสี่ยงในการสูญเสียเงินจากการลงทุน การลงทุนในหุ้นกู้คราวด์ฟันดิงเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายความเสี่ยงให้กับพอร์ตการลงทุน นักลงทุนจะสามารถเริ่มลงทุนได้ต่อก็ต่อเมื่อนักลงทุนทำการลงทะเบียนและผ่านแบบประเมินความรู้ความเข้าใจในการลงทุนแล้ว

Author
PeerPower Team

สู่เป้าหมายทางการเงินที่ไกลขึ้น

ลงทุนและระดมทุนเพื่อธุรกิจผ่านคราวด์ฟันดิงกับ PeerPower
สมัคร